รีวิว This Bed We Made

รีวิว This Bed We Made อาจจะเป็นปี 2023 แล้ว แต่ This Bed We Made ก็เป็นอีกเกมที่ออกในช่วงปลายปี และมีแนวคิดและการนำเสนอค่อนข้างน่าสนใจ มันเป็นเพียงของเสีย มันดูไม่เหมือนเกมเลย ทำไม เรามาค้นหาคำตอบได้ในรีวิว This Bed We Made นี้ เรื่องราวของเกมนี้ เป็นเรื่องราวของโซฟี รอยซ์ แม่บ้านที่ทำงานในโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่ธรรมชาติของเธอคือการอยากรู้อยากเห็นในทุกสิ่ง ในภาษาทั่วไปคือเผือก และโรงแรมที่เธอทำงานอยู่ ก็เต็มไปด้วยปัญหามากมาย ทั้งจากแขกที่มาพัก หรือส่วนที่ยากที่สุดคือพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้างานหรือเพื่อนร่วมงาน เพราะแต่ละคนก็มีปัญหาที่โซฟีเองก็ต้องรับมือด้วย จนกว่าคุณจะพบว่ามีแขกในโรงแรมกำลังสะกดรอยตามเธอ และเธอไม่รู้ว่าจะเชื่อใจใครได้บ้าง เรื่องราวต่อจากนี้จะต้องดำเนินต่อไปในเกม

สำหรับเกมแบบนี้สไตล์นี้จุดเด่นอยู่ที่เนื้อเรื่องอยู่แล้ว เกมนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของเกมนี้ เพราะตัวละครหลักของเราเป็นแม่บ้านธรรมดาที่มีทักษะขี้อายและสอดรู้สอดเห็นเก่ง ทำให้การเล่าเรื่องของเกมนี้ขึ้นอยู่กับผู้เล่นเอง คุณได้ลองค้นหาข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับชุดนี้แล้วหรือยัง? และเราพบเบาะแสกี่ข้อ? และในเกมนี้เราจะพบกับพนักงานโรงแรมมากมาย ได้พูดคุยกับทุกคน เรียนรู้ว่านิสัยของแต่ละคนเป็นอย่างไร ซึ่งอาจเป็นเบาะแสที่นำไปสู่เหตุการณ์หรือเรื่องราวต่างๆ รวมถึงทำให้เราเดาได้ว่า คุณจะเชื่อใจใครได้หรือไม่?

เราเคยนำเสนอเกมอินดี้ เล่นโดยไม่ได้สนใจเนื้อเรื่องมากนัก ดังนั้น หากอยากดูเรื่องมืดที่น่าติดตามและระทึกใจ แถมฉันยังต้องพูดถึงชาวบ้านต่อไป เพื่อรวบรวมเบาะแส นี่คือเกมที่คุณอาจกำลังมองหา แต่ทักษะภาษาอังกฤษของคุณจะต้องอยู่ในระดับที่คุณสามารถอ่านและเขียนได้นิดหน่อยจึงจะเข้าใจเรื่องราวได้ เพราะสิ่งสำคัญในเกมนี้ก็คือการอ่านและความเข้าใจ ถ้าคุณไม่เก่งภาษา ความรู้สึกของการไม่แบ่งแยกก็อาจจะลดลงไปมากทีเดียว

เรื่องราวของเกมนี้ เป็นเรื่องราวของ Sophie Royce แม่บ้านที่ทำงานในโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่ธรรมชาติของเธอคือการอยากรู้อยากเห็นในทุกสิ่ง ในภาษาทั่วไปคือเผือก และโรงแรมที่เธอทำงานอยู่ ก็เต็มไปด้วยปัญหามากมาย ทั้งจากแขกที่มาพัก หรือส่วนที่ยากที่สุดคือพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้างานหรือเพื่อนร่วมงาน เพราะแต่ละคนก็มีปัญหาที่โซฟีเองก็ต้องรับมือด้วย จนกว่าคุณจะพบว่ามีแขกในโรงแรมกำลังสะกดรอยตามเธอ และเธอไม่รู้ว่าจะเชื่อใจใครได้บ้าง เรื่องราวต่อจากนี้จะต้องดำเนินต่อไปในเกม

สำหรับเกมแบบนี้สไตล์นี้จุดเด่นอยู่ที่เนื้อเรื่องอยู่แล้ว เกมนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของเกมนี้ เพราะตัวละครหลักของเราเป็นแม่บ้านธรรมดาที่มีทักษะขี้อายและสอดรู้สอดเห็นเก่ง ทำให้การเล่าเรื่องของเกมนี้ขึ้นอยู่กับผู้เล่นเอง คุณได้ลองค้นหาข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับชุดนี้แล้วหรือยัง? และเราพบเบาะแสกี่ข้อ? และในเกมนี้เราจะพบกับพนักงานโรงแรมมากมาย ได้พูดคุยกับทุกคน เรียนรู้ว่านิสัยของแต่ละคนเป็นอย่างไร ซึ่งอาจเป็นเบาะแสที่นำไปสู่เหตุการณ์หรือเรื่องราวต่างๆ รวมถึงทำให้เราเดาได้ว่า คุณจะเชื่อใจใครได้หรือไม่?

เราเคยนำเสนอเกมอินดี้ เล่นโดยไม่ได้สนใจเนื้อเรื่องมากนัก ดังนั้น หากอยากดูเรื่องมืดที่น่าติดตามและระทึกใจ แถมฉันยังต้องพูดถึงชาวบ้านต่อไป เพื่อรวบรวมเบาะแส นี่คือเกมที่คุณอาจกำลังมองหา แต่ทักษะภาษาอังกฤษของคุณจะต้องอยู่ในระดับที่คุณสามารถอ่านและเขียนได้นิดหน่อยจึงจะเข้าใจเรื่องราวได้ เพราะสิ่งสำคัญในเกมนี้ก็คือการอ่านและความเข้าใจ ถ้าคุณไม่เก่งภาษา ความรู้สึกของการไม่แบ่งแยกก็อาจจะลดลงไปมากทีเดียว

PRESENTATION รีวิว This Bed We Made

เกือบทั้งเกม เราจะอยู่ในพื้นที่ปิด โรงแรมแคลริงตัน และยังมาจากช่วงปี 1950 อีกด้วย ทำให้มีบรรยากาศและกลิ่นอาย ทั้งแฟชั่น เสื้อผ้า และการแต่งตัวก็จะเป็นเหมือนยุคนั้นทั้งสิ้น แต่บอกตามตรงผมไม่แน่ใจ เพราะในยุค 50 พวกเราเกมเมอร์คงไม่ได้เกิดทันเวลา อาจมีสิ่งของร่วมสมัย หรืออาจจะมีไทม์วาร์ปปรากฎในเกมแล้วก็ไม่รู้รีวิว This Bed We Made

เกมดังกล่าวเป็นเกมเชิงเส้น และฉากในเกมนั้นเป็นพื้นที่ปิด แต่ภายใน 1 ฉากก็จะมีรายละเอียดและไอเทมมากมายให้เราสำรวจสำรวจจนแทบจะกำหนดไว้ล่วงหน้าทุกไอเทมทุกวัตถุ คุณสามารถหยิบมันขึ้นมาดูทั้งหมดได้ ไม่ว่าของจะเล็กแค่ไหน แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกชิ้นจะมีประโยชน์ ที่นี่ผมคิดว่ามันเหมือนกับชีวิตจริงของเรา ทุกสิ่งควรสามารถเข้าถึงได้ แต่ไม่ใช่ว่าทุกชิ้นจะมีประโยชน์ และชิ้นไหนมีประโยชน์? ก็จะมีคำใบ้ ผ่านระบบนำทางได้ลื่นไหล คือ ทุกครั้งที่เราติดขัด หรือบังเอิญอ่านข้ามบทสนทนาไปบ้าง เพียงกดปุ่มช่วยเหลือ มันจะให้คำแนะนำเราเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำต่อไป ทำให้การเข้าเล่นเกมนี้ไม่ยากอย่างที่คิด นั่นน่าจะเป็นปัญหา อาจเป็นอุปสรรคด้านภาษาที่ต้องอ่านเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ เกมดังกล่าวมีเรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงปี 1950 และมีคำศัพท์เก่า ๆ มากมายที่เราไม่ค่อยได้พบเจอในสมัยนี้

และด้วยโลเคชั่นในเกมมันก็แค่โรงแรม ในอาคารที่มีพื้นที่จำกัด รายละเอียด รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เกมนี้เติมได้ไม่มีสะดุด หลายฉาก หลายจุด น่าเดินไปชมภาพกันเลยทีเดียว การตั้งค่าโทนสี แสง และเงาเป็นสิ่งที่เกมนี้ทำได้ค่อนข้างดี ให้ความรู้สึกวินเทจแต่ยังคงดูทันสมัยอยู่มาก กราฟิกเป็นสิ่งที่ทำให้เกมนี้ดูดีจริงๆ รวมถึงอุปกรณ์ประกอบฉากด้วย เขาไม่ได้ทำเพื่อให้โลกในเกมดูมีชีวิตชีวา แต่เขาทำเพื่อให้เข้ากับการเล่นเกม โปสเตอร์บนผนังบางสิ่งบางอย่างถ้าคุณไปสำรวจอาจพบเบาะแสที่ทำให้เรารู้เรื่องราวภายในเกมมากขึ้น โดยส่วนตัวแล้วทั้งชอบและไม่ชอบระบบใดๆ แบบนี้ ดีที่ถ้าใครชอบสำรวจก็จะอินจริงๆ เราจะรู้ว่าที่นี่คือที่นี่ เกิดอะไรขึ้น คนนี้กับคนนั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างไร? แต่บางครั้งฉันก็ขี้เกียจ ผมอยากเล่นจนกว่าจะจบ ขึ้นอยู่กับบุคคล

เกมดังกล่าวมีฉากใหญ่ให้เล่นเพียง 5 ฉาก แต่จะใช้เวลานานมากในการเล่นแต่ละฉากหากคุณเป็นคนที่ชอบติดตามทุกรายละเอียด ชอบเชื่อมโยงและปะติดปะต่อทุกเหตุการณ์ คุณอาจใช้เวลาถึง 10 ชั่วโมงในเกมนี้ ซึ่งถือเป็นชั่วโมงที่เหมาะสม แต่ถ้าคุณไม่เล่นแบบนี้ คุณอาจไม่เหมาะกับเกมนี้เลย เพราะในเกมนี้ใครไม่ชอบอ่านและขี้เกียจบ้าง? ข้าม. ฉันรับรองว่าคุณจะต้องสับสน

GAMEPLAY

ในแง่ของรูปแบบการเล่น This Bed We Made เป็นลูกผสมระหว่างเกม Visual Novel และ Puzzle มันไม่ใช่ทางของฉันเลย แต่เนื่องจากเราเข้าไปพัวพันกับเรื่องราวในระดับหนึ่ง ดังนั้นเราจึงตัดสินใจลองดู เกมประเภทนี้เบิร์นได้ช้ามาก มันเป็นเกมที่ผู้เล่นจะต้องใจเย็น มีสมาธิกับมันตลอดเวลาเพื่อที่จะเข้าถึงมันเพราะตัวเกมเน้นที่การพูดคุยเป็นหลัก แถมยังมีช่วงเวลาที่ไม่ได้พูดคุยด้วย จะเป็นที่ที่เราจะต้องเดินสำรวจ คว้าสิ่งนี้และสิ่งนั้น ซึ่งตรงกับนิสัยขี้อายของตัวละครหลักอย่างโซฟีเพราะในเกมนี้เราจะต้องอยากรู้อยากเห็นให้มากที่สุดถึงจะได้ผล ทุกชิ้นที่สามารถสัมผัสได้ เราต้องหยิบมันขึ้นมาแล้วหมุนเพื่อดูว่ามีรายละเอียดหรือคำใบ้อะไรซ่อนอยู่หรือไม่ พร้อมกับการอ่านเอกสารสำคัญที่อาจมีเบาะแสชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่ต้องทำจึงจะผ่านไปได้

หลังจากเล่นไปเล่นไปก็ไม่รู้สึกว่าเรากำลังเล่นเกมอยู่เลย แม้ว่าฉันจะบอกว่ามันเป็นปริศนาที่ผสมกับ Visual Novel แต่เมื่อฉันเล่นมัน มันอาจกลายเป็นเกม Interactive Visual Novel ก็ได้ เราแทบไม่ได้รับการกระทำหรืออะไรเลย นอกจากจะหยิบของ เอามาอ่าน หาทางไปต่อ เอามาอ่าน อาจมีตอนตื่นเต้นบ้าง แต่จะหนักกับบรรยากาศแทน ฉันจะบอกว่ารูปแบบการเล่นในเกมนี้ง่ายมาก เหมือนทีมผู้ผลิตอยากนำเสนอหนังหรือซีรีย์ดีๆ แต่ฝีมือทำเกมมากกว่า มันเลยออกมาแบบนี้ มันเหมือนกับเกมที่ไม่ใช่เกมเลย มันจะมีเกมมิฟิเคชั่นอยู่บ้าง ตอนที่เราเล่นเป็นแม่บ้าน อย่างน้อยเกมก็ไม่ลืมบทบาทของตัวละครหลัก เราต้องไปทำความสะอาดพื้นผิว จัดเตียง ทำผ้าห่ม ฯลฯ แต่มาเผชิญหน้ากันเถอะ เกมทั้งหมดมีรูปแบบการเล่นจริงน้อยมาก และไม่ใช่รูปแบบเกมที่น่าตื่นเต้นนัก อะไรจะน่าตื่นเต้นขนาดนี้?

มันเป็นเกมอินดี้ สเปคเครื่องไม่ได้แรงมาก เกมดังกล่าวต้องการเพียงการ์ดกราฟิก GTX 1660 เท่านั้น และไม่มีการปรับแต่งภายในตัวเกมมากนัก โดยหลักๆ แล้วเป็นเพียงการปลดล็อค Frame Limit ด้วย VSync และ Visual Bloom มีแต่เมฆ นอกนั้นก็ตั้งค่าเกมปกติ เช่นการปรับปุ่มควบคุมหรือใช้จอยสติ๊ก ซึ่งถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานเกมทั่วไป

This Bed We Made เป็นประสบการณ์การเล่นเกมที่ค่อนข้างช้า และผู้เล่นต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ และซึมซับเรื่องราวของมัน ใครกำลังมองหาเกมที่มีเรื่องราวอันมืดมนที่เน้นความตื่นเต้นและการสืบหาความจริง? นี่คือเกมที่คุณไม่ควรพลาด แต่ถ้าไม่ ก็ผ่านมันไปก็ไม่เสียหายรีวิว This Bed We Made

บทความที่เกี่ยวข้อง